เปิดในหน้าต่างใหม่
ข่าวประชาสัมพันธ์ 28 มีนาคม 2566

Apple Music Classical พร้อมให้บริการแล้ว

สมาชิก Apple Music สามารถสัมผัสที่สุดของประสบการณ์การสตรีมดนตรีคลาสสิกโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดาวน์โหลดได้เลยวันนี้ทาง App Store
โลโก้ Apple Music Classical วางซ้อนอยู่บนนักดนตรี 3 คนที่ถือไวโอลินอยู่หน้าฉากหลังสีแดง
Apple Music Classical คือแอปใหม่สำหรับการสตรีมเพลงที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การฟังในแบบที่คนรักดนตรีคลาสสิกควรได้สัมผัส ซึ่งพร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้ทาง App Store
คูเปอร์ติโน, รัฐแคลิฟอร์เนีย วันนี้ Apple เปิดตัว Apple Music Classical ซึ่งเป็นแอปใหม่สำหรับการสตรีมเพลงที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การฟังในแบบที่คนรักดนตรีคลาสสิกควรได้สัมผัส โดยใน Apple Music Classical นั้นสมาชิก Apple Music สามารถค้นหาผลงานการบันทึกเสียงที่ต้องการจากแค็ตตาล็อกดนตรีคลาสสิกที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ง่ายๆ ด้วยระบบค้นหาที่ปรับแต่งมาอย่างลงตัว และเพลิดเพลินกับคุณภาพเสียงระดับสูงสุดเท่าที่มีในปัจจุบัน พร้อมดื่มด่ำกับงานเพลงคลาสสิกที่ชื่นชอบในแบบที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อนกับ Spatial Audio ที่สมจริง นอกจากนี้ยังมีเพลย์ลิสต์ที่คัดสรรโดยผู้เชี่ยวชาญ ชีวประวัติอย่างละเอียดของคีตกวี คำอธิบายผลงานเพลงนับพัน และอีกมากมาย Apple Music Classical พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้ทาง App Store และรวมอยู่ในการสมัครสมาชิก Apple Music เกือบทุกแผนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อรวม Apple Music Classical เข้ากับ Apple Music แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือประสบการณ์การฟังเพลงที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบสำหรับทุกคน ตั้งแต่ผู้ที่เป็นแฟนเพลงคลาสสิกมายาวนานจนถึงผู้ที่เพิ่งเริ่มฟัง
"เรารักเสียงดนตรี เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่เราใส่ใจจริงๆ และดนตรีคลาสสิกก็เป็นพื้นฐานของดนตรีทุกแนว" Oliver Schusser รองประธาน Apple Music และ Beats กล่าว "Apple Music Classical เป็นแอปที่สร้างมาโดยเฉพาะสำหรับคอเพลงคลาสสิก หรือใครก็ตามที่เพิ่งเริ่มฟัง เพราะมีเพลงคลาสสิกให้เลือกฟังมากที่สุดในโลก พร้อมด้วยความสามารถในการค้นหาและเลือกดูที่ดีที่สุด รวมถึงประสบการณ์ด้านเสียงชั้นเยี่ยมจาก Spatial Audio และผลงานการบันทึกเสียงอีกหลายพันที่มีให้ฟังที่นี่ที่เดียว เราเชื่อว่านี่คือประสบการณ์การสตรีมเพลงคลาสสิกที่ดีที่สุดเท่าที่มีในปัจจุบัน และสำหรับเราแล้ว นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น"

แค็ตตาล็อกเพลงคลาสสิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Apple Music Classical เป็นศูนย์รวมแค็ตตาล็อกเพลงคลาสสิกที่ใหญ่ที่สุดในโลกมากกว่า 5 ล้านแทร็ค ครอบคลุมทุกงานเพลงตั้งแต่ผลงานการบันทึกเสียงที่ได้รับการยกย่อง จนถึงผลงานดีๆ ที่อาจหลงลืมกันไป โดยผู้ที่เพิ่งเริ่มฟังสามารถเริ่มต้นจาก Editor’s Choice ที่คัดสรรบทเพลงมาอย่างตั้งใจโดยทีมบรรณาธิการ ส่วนผู้ที่คุ้นเคยกับงานเพลงชิ้นใดชิ้นหนึ่งอยู่แล้วก็สามารถลงลึกไปอีกขั้นโดยเลือกจากรายการผลงานการบันทึกเสียงยอดนิยมที่รวบรวมไว้ให้ในแอป ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ฟังได้เปรียบเทียบความเหมือนและความต่างในแบบที่เพลิดเพลิน นอกจากนี้ Apple Music Classical ยังมีอีกหลายพันอัลบั้มที่มีให้ฟังเฉพาะที่นี่ ซึ่งรวมถึงผลงานการบันทึกเสียงโดยวงออเคสตราชื่อดังระดับโลก

การค้นหาที่สร้างมาสำหรับดนตรีคลาสสิก

งานเพลงคลาสสิกมีหลายมูฟเมนต์และหลายแทร็ค ส่วนผลงานที่โด่งดังนั้นก็มีการบันทึกเสียงหลายร้อยครั้งกับวงออเคสตรา วาทยากร และศิลปินผู้บรรเลงเดี่ยวที่ต่างกันออกไป ในขณะที่คีตกวีหลายท่านมีการจัดประเภทผลงานการประพันธ์ในแบบของตัวเอง อย่าง BWV ของ Bach หรือ K ของ Mozart ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่มีความซับซ้อน และ Apple Music Classical ก็คำนึงถึงเรื่องนี้ จึงออกแบบการค้นหาขึ้นใหม่เพื่อให้สามารถแสดงผลลัพธ์ที่ผู้ใช้ต้องการได้อย่างแม่นยำโดยการผสมผสานคีย์เวิร์ดทั้งหมดเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ชื่อนักประพันธ์และผลงาน จนถึงหมายเลขโอปุส วาทยากร ศิลปิน เครื่องดนตรี หรือแม้แต่ชื่อเล่นของผลงานนั้นๆ โดยแอปจะแสดงการบันทึกเสียงทั้งหมดของผลงานที่ค้นหา รวมถึงการบรรเลงที่ได้รับเลือกให้เป็น Editor's Choice และเมื่อค้นหาจากชื่อนักประพันธ์ แอปก็จะแสดงผลงานทั้งหมดที่มีให้ฟัง

อินเทอร์เฟซที่ออกแบบมาสำหรับดนตรีคลาสสิก

Apple Music Classical มาพร้อมอินเทอร์เฟซที่ช่วยให้ผู้ฟังรู้อยู่เสมอว่ากำลังฟังเพลงอะไรและของใคร โดยมีการแสดงข้อมูลทั้งหมดให้มองเห็นง่ายๆ เพียงแค่เหลือบมอง ทั้งชื่อผลงาน วงออเคสตรา วาทยากร ศิลปินที่ร่วมบรรเลง หรือแม้แต่ปีที่บันทึกเสียง และในส่วนของการจัดการคลังเพลงส่วนตัวนั้น Apple Music Classical ก็ให้ผู้ฟังเพิ่มได้มากกว่าแค่อัลบั้ม แทร็ค เพลย์ลิสต์ หรือศิลปินโดยการรองรับหมวดหมู่ที่มีเฉพาะในดนตรีคลาสสิก อย่างชื่อผลงาน นักประพันธ์ และการบันทึกเสียง

คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด

Apple Music Classical มาพร้อมเสียงแบบ Lossless สูงสุด 24 บิต/192 kHz เพื่อให้ผู้ฟังได้ดื่มด่ำกับทุกรายละเอียดของการบรรเลง และในโหมด Hi-Res Lossless นั้น เสียงที่ได้ยังมีความคมชัดน่าทึ่งราวกับว่าทุกตัวโน้ตลอยมาอยู่ใกล้ๆ ให้คุณได้สัมผัส เท่านั้นยังไม่พอ เพราะยังมี Spatial Audio สุดล้ำพร้อม Dolby Atmos ที่ให้ผู้ฟังได้เพลิดเพลินกับผลงานการบันทึกเสียงนับพันจากตำแหน่งที่นั่งที่ดีที่สุดในคอนเสิร์ตฮอลล์ แล้วเต็มอิ่มไปกับมิติเสียงที่โอบล้อม 360 องศาในแบบที่เสียงดนตรีดังมาจากทุกทิศทางรวมถึงเหนือศีรษะ โดยแค็ตตาล็อก Spatial Audio ของ Apple Musical Classical นั้นจะมีอัลบั้มใหม่ๆ เพิ่มมาทุกสัปดาห์ ทั้งในส่วนของการบรรเลงระดับตำนานที่นำมารีมาสเตอร์ และผลงานการบรรเลงร่วมสมัยที่บันทึกเสียงในแบบ Spatial Audio

ผลงานแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิก

ทีมบรรณาธิการของ Apple Music Classical ได้สร้างเพลย์ลิสต์ไว้กว่า 700 รายการ ซึ่งจะพาผู้ฟังไปรู้จักกับดนตรีคลาสสิกตลอดช่วงระยะเวลา 800 ปี และจะมีเพลย์ลิสต์ใหม่เพิ่มมาเรื่อยๆ โดยผู้ที่เพิ่งเริ่มฟังสามารถเริ่มต้นจากออดิโอไกด์ The Story of Classical ซึ่งผสมผสานเสียงบรรยายของผู้เชี่ยวชาญเข้ากับงานเพลงที่คัดสรรมาเพื่อแนะนำคีตกวี ยุค เครื่องดนตรี และคำศัพท์สำคัญของดนตรีคลาสสิก ส่วนผู้ที่คลั่งไคล้ดนตรีคลาสสิกอยู่แล้วก็สามารถฟังเบื้องลึกเบื้องหลังของผลงานการบันทึกเสียงหลายชิ้นโดยมีศิลปินคลาสสิกชั้นแนวหน้ามาบรรยายประกอบบทเพลงแต่ละแทร็ค นอกจากนี้ Apple Music Classical ยังมีส่วน Hidden Gems ซึ่งจะคัดเลือกผลงานที่อาจยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมาให้ฟังกันทุกสัปดาห์ ในขณะที่เพลย์ลิสต์ Composer Undiscovered จะพาผู้ฟังไปรู้จักกับคีตกวีชื่อดังในมุมมองใหม่ๆ

สำรวจแค็ตตาล็อกดนตรีคลาสสิกแบบง่ายๆ

แถบ Browse ของแอป Apple Music Classical จะพาผู้ฟังไปสำรวจแค็ตตาล็อกดนตรีคลาสสิกที่ใหญ่ที่สุดในโลกตามความสนใจของแต่ละคน ตั้งแต่นักประพันธ์ เครื่องดนตรี และยุค จนถึงวาทยากร วงออเคสตรา และคณะประสานเสียง รวมถึงดนตรีคลาสสิกแนวต่างๆ อย่าง Chamber Music หรือ Stage Works ซึ่งเมื่อสามารถสำรวจแค็ตตาล็อกได้มากมายหลายวิธี ความเป็นไปได้ในการค้นพบผลงานโปรดชิ้นใหม่จึงมีไม่รู้จบ
ภาพแสดงแถบ Browse ของ Apple Music Classical
แถบ Browse ใน Apple Music Classical สนับสนุนให้ผู้ฟังได้สำรวจและค้นพบผลงานโปรดชิ้นใหม่

อาร์ตเวิร์กใหม่สำหรับ Apple Music Classical โดยเฉพาะ

ผู้ฟัง Apple Music Classical จะได้เห็นอาร์ตเวิร์กใหม่เอี่ยมที่มีเฉพาะที่นี่ ทั้งปกเพลย์ลิสต์หลายร้อยแบบ รวมถึงภาพพอร์เทรตแบบดิจิทัลความละเอียดสูงที่ไม่เหมือนใครของคีตกวีชื่อดังระดับโลกหลายท่าน โดยมีการว่าจ้างศิลปินหลากหลายกลุ่มในการผลิตผลงาน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการศึกษาทางประวัติศาสตร์ ชุดสีต่างๆ รวมถึงการอ้างอิงทางศิลปะจากยุคดนตรีคลาสสิกที่เกี่ยวข้อง และผลงานใหม่ๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่ยังได้รับการออกแบบบน Mac และ iPad ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียด และทำให้ผู้ฟังได้เห็นหน้าค่าตาของศิลปินคลาสสิกระดับชั้นแนวหน้าในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น Bach, Beethoven, Hildegard von Bingen, Chopin, John Dowland, Fanny Mendelssohn, Shostakovich, Tchaikovsky, Vivaldi และอีกมากมาย
ยิ่งไปกว่านั้น Apple Music Classical ยังร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับสถาบันดนตรีคลาสสิกที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายแห่งอย่าง Berlin Philharmonic, Carnegie Hall, the Chicago Symphony Orchestra, the London Symphony Orchestra, the Metropolitan Opera, the New York Philharmonic, Opéra National de Paris, the Royal Concertgebouw Orchestra, the San Francisco Symphony และ Vienna Philharmonic ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ผู้ฟัง Apple Music Classical ได้เต็มอิ่มกับคอนเทนต์และผลงานการบันทึกเสียงใหม่ๆ ที่มีเฉพาะที่นี่ตั้งแต่วันแรกที่ออก และอีกมากมาย นอกจากนี้ Apple Music Classical ยังจะจัดการบรรเลงดนตรีสดโดยวงออเคสตราชั้นนำบางส่วนที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเราที่ Apple Store หลายสาขาทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Today at Apple เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 เป็นต้นไป หากต้องการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม Today at Apple สามารถไปที่ apple.com/today
Apple Music ยังทำงานร่วมกับนักประพันธ์ ศิลปิน และนักดนตรีที่มีชื่อเสียงในยุคปัจจุบันหลายท่านอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าแอปนี้สามารถเสริมศักยภาพของศิลปินและดึงดูดความสนใจของคนรักดนตรีคลาสสิกทั่วโลกได้
Yo-Yo Ma ซึ่งเป็นนักเชลโล่ เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ช่วงแรกของการพูดคุยถึงความจำเป็นที่ต้องมีแอปอย่าง Apple Music Classical และรู้สึกยินดีที่ผู้ฟังกำลังจะมีวิธีใหม่ๆ ในการเข้าถึงและสำรวจโลกของดนตรีคลาสสิก "ดนตรีคลาสสิก และวัฒนธรรมทั้งหมด โดยพื้นฐานแล้วเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ การสานสายใยของความเข้าใจที่มีต่อกันข้ามผ่านพื้นที่และกาลเวลา" Yo-Yo Ma กล่าว "นวัตกรรมเช่นนี้คือสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ดังกล่าวเป็นจริงได้ ช่วยให้เรามีพื้นที่ที่ความอยากรู้อยากเห็นได้โลดแล่น ได้กลับมาค้นพบสิ่งที่คุ้นเคย และสุขใจกับสิ่งที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้พบ"
"ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับการที่ Apple Music เป็นผู้ริเริ่มในการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับดนตรีคลาสสิกในยุคของสตรีมมิ่ง" Hilary Hahn กล่าว "ฉันรู้ว่าสามารถเชื่อใจเสียงคุณภาพสูงที่ไม่บีบอัดแบบแท้ๆ ของ Apple Music ว่าจะสามารถถ่ายทอดความละเอียดอ่อนในการบรรเลงเพลงของฉันได้ รวมไปถึงเครื่องดนตรีและพื้นที่ที่ใช้บรรเลง หรือแม้แต่งานบันทึกเสียงดนตรีคลาสสิกที่เป็นการบรรเลงเดี่ยวก็ยังเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิด และเมทาดาต้าของ Apple Music Classical ก็มีความละเอียดในระดับที่มั่นใจได้ว่าทุกคนจะได้รับเครดิตอย่างที่สมควรได้ ทั้งนักประพันธ์ ผู้เรียบเรียง วาทยากร นักดนตรี โปรดิวเซอร์ ค่ายดนตรี และอีกมากมาย
"ผมทำงานร่วมกับ Apple เพื่อช่วยแก้ปัญหาในการสตรีมดนตรีคลาสสิกมาระยะหนึ่งแล้ว" Jonny Greenwood กล่าว "ปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการค้นหาและรวบรวมดนตรีคลาสสิกในรูปแบบดิจิทัลนั้นมีความเฉพาะตัว แต่ Apple ก็สามารถคิดหาวิธีแก้ไขที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ยกตัวอย่างง่ายๆ เลย เช่น เพลง 'Blue' ของ Joni Mitchell นั้นมีเพียงหนึ่งการบันทึกเสียง ในขณะที่เพลง 'Rhapsody in Blue' นั้นมีเป็นพัน ซึ่งกับการค้นหาแบบแรกนี้ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มสนใจดนตรีคลาสสิกนั้น บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวและชวนให้ท้อ ผมจึงรู้สึกตื่นเต้นมากที่ในที่สุดแล้วทุกคนจะได้มีวิธีเดินทางเข้าสู่โลกดนตรีอันน่าทึ่งนี้ ซึ่งพร้อมต้อนรับแฟนเพลงคลาสสิกทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า และตอบแทนความสนใจใคร่รู้ในเสียงดนตรีด้วยเสียงดนตรีกันแบบตรงไปตรงมาและเข้าใจง่าย"
"ดนตรีเป็นจุดโฟกัสในชีวิตของผม และในฐานะของนักประพันธ์และผู้สนับสนุน ผมเชื่อมาตลอดว่าดนตรีคือสิ่งสำคัญที่มนุษยชาติจะขาดไม่ได้" Gordon P. Getty กล่าว "การมาถึงของ Apple Music Classical คือช่วงเวลาที่ควรจดจำในสายอาชีพของเรา เพราะนี่คือบริการสตรีมมิ่งชั้นยอดที่เชิดชูศิลปินมากมายหลายกลุ่ม ยกย่องผลงานการบันทึกเสียงระดับตำนาน และจุดประกายความอยากรู้อยากเห็นในตัวพวกเราทุกคน เรียกว่า Apple ได้สร้างประสบการณ์ที่ไม่มีใครเหมือน คู่ควรกับความหลงใหลในเสียงดนตรีของเรา และผมมั่นใจว่าบริการนี้จะช่วยยกระดับวงการดนตรีคลาสสิกไปอีกหลายเจเนอเรชั่น"
ความพร้อมใช้งาน
  • Apple Music Classical พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้ทาง App Store ทุกที่ที่ Apple Music ให้บริการ ยกเว้นจีน, ญี่ปุ่น, รัสเซีย, เกาหลีใต้, ไต้หวัน และตุรกี
  • สมาชิก Apple Music ปัจจุบันสามารถเพลิดเพลินกับ Apple Music Classical ได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • Apple Music Classical ใช้งานได้บน iPhone ทุกรุ่นที่มี iOS 15.4 หรือใหม่กว่า 
  • Apple Music Classical สำหรับ Android จะมีให้ใช้งานเร็วๆ นี้ 
  • ผู้ใช้ต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อฟังเพลงใน Apple Music Classical
  • ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/th/music และติดตาม @appleclassical ทาง Twitter
แชร์บทความ

Media

  • เนื้อหาของบทความนี้

  • รูปภาพในบทความนี้

รายชื่อติดต่อสำหรับสื่อมวลชน

ช่องทางให้ความช่วยเหลือของ Apple สำหรับสื่อมวลชน

media.thailand@apple.com